วันเสาร์ที่ 4 ตุลาคม พ.ศ. 2557

มุมพักผ่อน คลายเครียด

เพลงเพราะๆ 

เหงาไหม ท้อไหม อยากมีคนข้างๆสักคนหรือเปล่า.........



                                           ถ้าได้เขามาอยู่ใกล้ๆแล้ว จะดูแลเขาให้ดีได้ไหม......


                                      เวลาที่ผ่านไป... จะทำให้เรารักกันน้อยลงหรือเปล่า......





 เรื่่องตลก ฮาๆ คลายเครียด
 ดูเรื่องฮาๆเพิ่มเติม -->
 
คลิก



ครบรอบแต่งงาน
สามีภรรยาฉลองครบรอบแต่งงาน 25 ปี กันสองต่อสองที่บ้าน เมื่อแชมเปญ หมดไปสองขวด สามีก็หันไปถามภรรยา
ที่รัก ถามจริงๆ นะ อยู่กันมา 25 ปีนี่ เธอเคยนอกใจฉันบ้างไหม?"
"เคยค่ะ ฉันเคยนอกใจคุณสามครั้ง" ภรรยาตอบอย่างไม่ค่อยเต็มใจนัก
"เหรอ ทำไมล่ะ?" สามีอยากรู้เหตุผล
"คือว่า.." ภรรยาเริ่มเล่า
"ครั้งแรกหลังจากที่เราแต่งงานกันใหม่ๆ ตอนที่คุณต้องผ่าตัด แต่เรามีเงิน ไม่พอ ฉันเลยไปนอนกับ หมอศัลยกรรมเพื่อให้เขาไม่คิดค่าผ่าตัด"
"อืมม... เธอช่างมีน้ำใจกับฉันจริงๆ" สามีชม "แล้วครั้งที่สองล่ะ?"
"จำตอนที่เขาเลือกรองประธานบริษัทได้ไหมคะ เขาจะไม่เลือกคุณอยู่แล้ว ฉันไปนอนกับท่าน ประธานมา เขาถึงเลือกคุณไงคะ"
"จริงเหรอ แหมฉันนึกว่าฉันได้มาเพราะฝีมือแท้ๆ นะเนี่ย" สามีชื่นชมภรรยา
"แล้วครั้งที่สามล่ะ"
"เมื่อปีก่อนนี่เอง ตอนที่คุณอยากเป็นประธานชมรมกอล์ฟ แต่ขาดเสียงสนับสนุนอยู่ 53 เสียงน่ะค่ะ ... "



เลขาสาวสวย
ผู้จัดการสองคนในยุค ไอเอ็มเอฟ ร่วมกันจ้างเลขาฯ สาวสวยคนเดียว
ทั้งคู่แข่งกันว่าใครจะได้นอนกับเธอก่อนกัน
ในที่สุด ผู้จัดการคนแรกก็ได้นอนกับเลขาฯ คนสวย
เพื่อนจึงถามว่า "เป็นไงมั่งวะ"
ผู้จัดการคนแรกตอบว่า "ไม่ค่อยเก่งว่ะ เมียอั๊วเด็ดกว่า"
อีกสองอาทิตย์ ผู้จัดการคนที่สองจัดการพาเลขาฯ สาวสวยเข้าโรงแรม
เมื่อผู้จัดการคนแรกรู้ข่าว เขาถามว่า "เป็นไงมั่งล่ะ"
ผู้จัดการคนที่สองบอกว่า "ลื้อพูดถูกเผงเลยว่ะ เมียลื้อเด็ดกว่าจริงๆ !"



ชายที่หญิงต้องยอม
มีมนุษย์ผู้ชายอยู่ 5 ประเภท ที่ผู้หญิงจะต้องปฏิบัติตามคำสั่งด้วยความยินดี
หมอ = ถอดเสื้อผ้าออกสิ
หมอฟัน = อ้ากว้างๆ หน่อยสิ
คนส่งนม = ประตูหน้าหรือประตูหลังครับ
นักตกแต่งภายใน = ถ้าคุณเอาไอ้นี่เข้าไปแล้ว คุณจะชอบมันแน่ๆ
นายธนาคาร = ถ้าคุณถอนออกตอนนี้ คุณจะเสียใจนะครับ

เซลส์แมนกับเด็กน้อย
เซลส์แมนคนหนึ่งพยายามโทรหาลูกค้า เมื่อโทรศัพท์ดังขึ้น
ปรากฏเสียงหนูน้อยคนหนึ่งกระซิบ "ฮาโหล หวัดดีคับ"
เซลส์แมน "แม่ของหนูอยู่มั้ย"
หนูน้อยกระซิบ "อยู่คับ"
เซลส์แมน "ขอพูดกับแม่ของหนูหน่อยสิ"
หนูน้อยกระซิบ "แม่ไม่ว่างคับ"
เซลส์แมน "แล้วพ่อของหนูอยู่มั้ย"
หนูน้อยกระซิบ "อยู่คับ"
เซลส์แมน "ขอพูดกับพ่อของหนูหน่อยสิ"
หนูน้อยกระซิบ "พ่อไม่ว่างคับ"
เซลส์แมน "แล้วมีใครอื่นอยู่อีกบ้างมั้ย"
หนูน้อยกระซิบ "พวกพนักงานดับเพลิงคับ"
เซลส์แมน "ขอพูดกับพวกเค้าซักคนหน่อยสิ"
หนูน้อยกระซิบ "พวกเค้าไม่ว่างคับ"
เซลส์แมน "แล้วนอกจากนี้มีใครอื่นอยู่อีกมั้ย"
หนูน้อยกระซิบ "พวกตำรวจคับ"
เซลส์แมน "ขอพูดกับพวกเค้าซักคนหน่อยสิ"
หนูน้อยกระซิบ "พวกเค้าไม่ว่างคับ"
เซลส์แมน "พูดตรงๆเลยนะหนู พ่อของหนู แม่ของหนู พนักงานดับเพลิง
แล้วก้อตำรวจอยู่ที่บ้านหนูกันหมด แถมพวกเค้าก็ยุ่งกันทุกคนด้วย เค้าทำอะไรกันอยู่เนี่ย"
หนูน้อยกระซิบ "พวกเค้าหาตัวผมอยู่คับ"


ต่างหวังดี
มีเด็กคนหนึ่งแม่สั่งให้ไปซื้อขนมปังตอนเช้าทุกๆวัน มีอยู่วันหนึ่งเด็กคนนั้นไปซื้อขนมปังเช่นทุกวัน 
เด็ก : ทำไมวันนี้ขนมปังเบาจังครับ 
คนขาย : ลุงใส่น้อยๆหนูจะได้ไม่หนักไง 
เด็กจึงให้เงินคนขายไป 3 บาท 
คนขาย : ทำไมหนูให้เงินลุงแค่ 3 บาท ล่ะ ปกติต้องให้ 5 บาทไม่ใช่เหรอ 
เด็ก : ก็ลุงจะได้นับเร็วๆไงครับ 


พักสายตา... กับภาพสวยๆ สบายๆ 






การทดลองทางวิทยาศาสตร์


เทอร์มอมิเตอร์



ที่มา : https://www.youtube.com/watch?v=fj2ZKWxfXv8

การแปลงหน่วยอุณหภูมิ





สูตรการแปลงอุณหภูมิเคลวิน จากเคลวิน เป็นเคลวิน
เซลเซียส [°C] = [K] − 273.15 [K] = [°C] + 273.15
ฟาเรนไฮต์ [°F] = [K] × 95 − 459.67 [K] = ([°F] + 459.67) × 59
ระบบหน่วยวัดระหว่างประเทศ หรือ ระบบเอสไอ (อังกฤษ: International System of Units[1]; ฝรั่งเศส: Système international d'unités: SI เป็นระบบการวัดที่ปรับปรุงมาจากระบบเมตริก โดยเน้นการสร้างมาจากหน่วยฐานทั้งเจ็ดหน่วยและใช้ระบบเลขฐานสิบ ซึ่งถือว่าเป็นระบบการวัดที่ใช้แพร่หลายที่สุดในโลกทั้งในชีวิตประจำวันและทางวิทยาศาสตร์
ระบบเมตริกแต่เดิมนั้นแบ่งออกเป็นหลายกลุ่ม โดยระบบเอสไอได้รับการพัฒนามาจากระบบหน่วยเมตร-กิโลกรัม-วินาที (meter-kilogram-second: MKS) ในปี 1960 และได้ปรับเปลี่ยนนิยามรวมถึงเพิ่มลดหน่วยฐานเอสไอมาตลอดตามการพัฒนาเทคโนโลยีทางด้านการวัด เพื่อเพิ่มความเที่ยงตรงในการวัดมากขึ้น
ระบบเอสไอเป็นระบบที่ใช้กันเกือบทั้งโลก มีเพียงสามประเทศที่ยังไม่ใช้หน่วยเอสไอเป็นมาตรฐานของหน่วยวัด ได้แก่ ไลบีเรีย พม่า และ สหรัฐอเมริกา แม้ในอังกฤษเองได้ยอมรับให้ใช้ระบบเอสไออย่างเป็นทางการ แม้ว่าจะไม่สามารถทดแทนระบบดั้งเดิมได้ทั้งหมด
Araya Dawan
มีโจทย์และพร้อมเฉลยให้มั้ยค้ะ
การเรียนการสอนวิทยาศาสตร์พื้นฐาน ชั้น ม.1
ประมาณ 1 นาทีที่แล้ว
การเรียนการสอนวิทยาศาสตร์พื้นฐาน ชั้น ม.1
1.ถ้าวัดอุณหภูมิของหลินปิงได้ 40 ํ C จะมีค่ากี่องศา F , K , R (แสดงวิธีทำให้ด้วยนะครับ)
2.น้ำบีกเกอร์ ก มีอุณหภูมิ 40 ํ C น้ำบีกเกอร์ ข มีอุณหภูมิ 20 ํ C อุณหภูมิของน้ำในบีกเกอร์ทั้งสองต่างกันกี่องศาฟาเรนไฮต์ (แสดงวิธีทำเหมือนกันครับ)
3.ถ้าน้ำอุณหภูมิ 100 ํ C จะมีอุณหภูมิเท่าไรในองศา K , F , R
สูตรการเปลี่ยนแปลงอุณหภูมิ ทั้ง 4 หน่วย °C/5=°R/4=(°F-32)/9=(K-273.15)/5
ข้อ1 40 องศาเซลเซียล
- เปลี่ยนเป็นองศา °F
วิธีทำ °C/5=(°F-32)/9
40/5=(°F-32)/9
°F= (360/5)+32 องศาฟาเรนไฮน์
-เปลี่ยนเป็นองศา K
°C/5=(K-273.15)/5
40/5=(K-273.15)/5
K=40+273.15=313.15 องศาเคลวิน
-เปลี่ยนเป็นองศา °R
°C/5=R/4
40/5=R/4
°R =8*4=32 องศาโรเมอร์
2 เปลี่ยน 40 องศา°C เป็น องศา°F
°C/5=(°F-32)/9
จากโจทย์ข้อ 1 ทำให้ทราบว่า 40 องศา°C=(360/5)+32 องศาฟาเรนไฮน๋
เปลี่ยน 20 องศา°C เป็นองศา°F
°C/5=(°F-32)/9
20/5=°F-32)/9
°F =(4*9)+32 องศาฟาเรนไฮน์
อุณหภูมิต่างกันเท่าไหร่ เอาองศาฟาเรนไฮน์บีกเกอร์ ก-องศาฟาเรนไฮน์บีกเกอร์ ข
ข้อ 3 ทำเช่นเดียวกับข้อ 1 ค่ะ ลองฝึกดู เพียงแทน °C =100 แทน
การเรียนการสอนวิทยาศาสตร์พื้นฐาน ชั้น ม.1
ไม่กี่วินาทีที่แล้ว
การเรียนการสอนวิทยาศาสตร์พื้นฐาน ชั้น ม.1
เรียนให้รู้ ดูให้จริง จำให้ได้ เยี่ยม


นำมาจาก
https://th-th.facebook.com/KarReiynKarSxnWiThyaSatRPhunThanChanM1/posts/577044512387018


วิทยาศาสตร์


ประวัติศาสตร์ของวิทยาศาสตร์[แก้]

กาลิเลโอ: บิดาแห่งวิทยาศาสตร์สมัยใหม่
คำว่า science ในภาษาอังกฤษ ซึ่งแปลว่า วิทยาศาสตร์นั้น มาจากภาษาลาติน คำว่า scientia ซึ่งหมายความว่า ความรู้ ในคริสต์ศตวรรษที่ 17 ฟรานซิส เบคอนได้พยายามคิดค้นวิธีมาตรฐานในการอุปนัย เพื่อนำมาใช้สร้างทฤษฎีหรือกฎต่างๆ ทางวิทยาศาสตร์จากข้อมูลที่ทดลองหรือสังเกตได้จากธรรมชาติ ]] เป็นผู้ถอนรื้อและปรับปรุงแนวความคิดเกี่ยวกับวิทยาศาสตร์สมัยเก่า ที่ยึดกับแนวความคิดของอริสโตเติลทิ้งไป. ณ ขณะนั้น กาลิเลโอได้กำหนดลักษณะสำคัญของวิทยาศาสตร์สมัยใหม่ไว้ดังนี้
  • ทำนายสิ่งที่เกิดขึ้นในปรากฏการณ์ธรรมชาติได้ โดยที่ไม่จำเป็นต้องอธิบายสาเหตุได้ เช่น ในขณะที่ยังไม่มีความรู้เรื่องแรงโน้มถ่วงนั้น กาลิเลโอไม่สนใจที่จะอธิบายว่า "ทำไมวัตถุถึงตกลงสู่พื้นดิน ?" แต่สนใจคำถามที่ว่า "เมื่อมันตกแล้ว มันจะถึงพื้นภายในเวลาเท่าใด ?"
  • ใช้คณิตศาสตร์เพื่อเป็นภาษาหลักของวิทยาศาสตร์ (ดูหัวข้อ คณิตศาสตร์และวิทยาศาสตร์)
ในเวลาต่อมา ไอแซก นิวตันได้ต่อเติมรากฐานและระบบระเบียบของแนวคิดเหล่านี้ และเป็นต้นแบบสำหรับสาขาด้านอื่นๆ ของวิทยาศาสตร์
ก่อนหน้านั้น, ในปี ค.ศ. 1619 เรอเน เดส์การตส์ ได้เริ่มเขียนความเรียงเรื่อง Rules for the Direction of the Mind (ซึ่งเขียนไม่เสร็จ). โดยความเรียงชิ้นนี้ถือเป็นความเรียงชิ้นแรกที่เสนอกระบวนการคิดเกี่ยวกับวิทยาศาสตร์สมัยใหม่และปรัชญาสมัยใหม่. อย่างไรก็ตามเนื่องจากเดส์การตส์ได้ทราบเรื่องที่กาลิเลโอ ผู้มีความคิดคล้ายกับตนถูกเรียกสอบสวนโดย โป๊ปแห่งกรุงโรม ทำให้เดส์การตส์ไม่ได้ตีพิมพ์ผลงานชิ้นนี้ออกมาในเวลานั้น
การพยายามจะทำให้ระเบียบวิธีทางวิทยาศาสตร์เป็นระบบนั้น ต้องพบกับปัญหาของการอุปนัย ที่ชี้ให้เห็นว่าการคิดแบบอุปนัย (ซึ่งเริ่มต้นโดยฟรานซิส เบคอน) นั้น ไม่ถูกต้องตามหลักตรรกศาสตร์. เดวิด ฮูมได้อธิบายปัญหาดังกล่าวออกมาอย่างละเอียด คาร์ล พอพเพอร์ในความคิดลักษณะเดียวกับคนอื่นๆ ได้พยายามอธิบายว่าสมมติฐานที่จะใช้ได้นั้นจะต้องทำให้เป็นเท็จได้ (falsifiable) นั่นคือจะต้องอยู่ในฐานะที่ถูกปฏิเสธได้ ความยุ่งยากนี้ทำให้เกิดการปฏิเสธความเชื่อพื้นฐานที่ว่ามีระเบียบวิธี 'หนึ่งเดียว' ที่ใช้ได้กับวิทยาศาสตร์ทุกแขนง และจะทำให้สามารถแยกแยะวิทยาศาสตร์ ออกจากสาขาอื่นที่ไม่เป็นวิทยาศาสตร์ได้
ปัญหาเกี่ยวกระบวนการปฏิบัติของวิทยาศาสตร์มีความสำคัญเกินขอบเขตของวงการวิทยาศาสตร์ หรือวงการวิชาการ ในระบบยุติธรรมและในการถกเถียงปัญหาเกี่ยวกับนโยบายสาธารณะ การศึกษาที่ใช้วิธีการนอกเหนือจาก แนวปฏิบัติทางวิทยาศาสตร์ที่เป็นที่ยอมรับ จะถูกปฏิเสธ และถูกจัดว่าเป็น "วิทยาศาสตร์ขยะ" หรือศาสตร์ปลอม[ต้องการอ้างอิง]